วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

good song

สาระน่ารู้จากพ่อครูPhongsak Raksaphet
วัดซับวันพุธ
......ตื่นมาอากาศเย็นนะ ไม่อยากลุกเลยนะครับ But life has to go on ผมจั่วหัวเรื่อง วัดซับวันพุธ ก็มาจาก What's up....? นั่นเอง ชีวิตมนุษย์บางครั้งก็ประสบโชคดี บางครั้งก็เคราะห์ร้าย เป็นเรื่องธรรมดา มาดูประโยคภาษาอังกฤษที่เป็นการพูดให้กำลังใจกันเวลาเพื่อนเจอเรื่องร้ายๆ มีหลายๆประโยค เลือกใช้เอานะครับ
......1. Don't lose heart.I am by your side. 2. Don't be discouraged. Bad things will soon pass. 3. Many people suffer, maybe more than you. You are not alone.
..... ...
ดูเพิ่มเติม

คำศัพท์ผลไม้

สาระน่ารู้จากพ่อครูPhongsak Raksaphet

สวัสดีวันศุกร์สุขสันต์
............วันศุกร์แล้วนะครับ หากเป็นฝรั่งก็จะบอกว่า TGIF หมายถึง Thank God It's Friday. ปกติแล้วเขาหยุดงานเสาร์ อาทิตย์ครับ หากต้องทำงานวันเสาร์จะได้ค่าแรง 2 เท่า ตอนอยู่อเมริกาผมทำวันเสาร์ อาทิตย์ บ่อย ทำแทนฝรั่งซึ่งเขาต้องการพักผ่อน สมัยนั้นทำงานได้วันละประมาณ $40 เสาร์-อาทิตย์ก็ได้ $80 หากคิดเป็นเงินไทยสมัยนี้ก็วันละประมาณ 2,500 บาท
..........มีแฟนคลับบางท่านบอกมาว่าอยากทราบชื่อผักไทยๆเป็นภาษาอังกฤษบ้าง การบอกชื่อดอกไม้ไทยเป็นภาษาอังกฤษนั้นมีประโยชน์มาก จะนำไปสอนนักเรียนต่อ ตกลงจัดให้ครับ
...........ผักกระเฉด (water minosa) ผักชี (coriander) คะน้า (kale) กะหล่ำดอก (cauliflower) คื่นช่าย (celery) น้ำเต้า,ฟัก (gourd) ขมิ้น (turmeric) ถั่วงอก (bean sprouts) เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (cashew nuts) ต้นหอม (leek) มะนาวฝรั่ง (lemon) มะนาวไทย (lime) ถั่วลันเตา (garden pea) ถั่วพู (winged bean) มะระ (bitter melon) มะเขือ (eggplant) กระเจี๊ยบเขียว (okra) ฟักทอง (pumpkin) บวบ (luffa) เผือก (taro) ขิง (ginger) ข่า (galangal) พริก (chili หรือ pepper) พริกไทย (hot pepper) สะระแหน่ (peppermint) หอมหัวใหญ่ (onion) หอมแดง (shallot) ตะไคร้ (lemon glass) กระเทียม (garlic) กระชาย (finger root) หัวไซเท้า ( Chinese radish) ข้าวโพดฝักอ่อน (baby corn) ผักกาดเขียวกวางตุ้ง (Chinese cabbage) กะหล่ำปลี (cabbage) ผักกาดหอม (lettuce) ถั่วฝักยาว (long bean หรือ string bean) มะเขือเปราะ (Thai eggplant) มะเขือเทศ (tomato) แตงกวา (cucumber) บวบงู (snake luffa) กะเพรา (holy basil) โหระพา (sweet basil) ผักบุ้งจีน (Chinese morning glory) ผักบุ้งไทย (Thai morning glory) 
.........พูดถึง morning glory ก็มีเรื่องตลกเล่าให้ฟัง ตอนเรียนอยู่อเมริกาในช่วงฤดูร้อน พวกเราคนไทยไปเช่าที่ดินของฝรั่งปลูกผักบุ้ง โหระพา กะเพรา มะเขือ โดยเฉพาะผักบุ้งจะปลูกมากเป็นพิเศษ ทำกับข้าวได้หลายอย่าง เราเรียกกันตลกๆระหว่างคนไทยว่า พีชแดก ไม่ใช่พืชดอก ตอนเย็นเราก็จะไปสวน คุยกันระหว่างคนไทยด้วยกัน มีอะไรก็แนะนำ ช่วยเหลือกัน สักประมาณทุ่มหนึ่งเราก็จะกลับ เดินตามกันเป็นแถว ต้องเดินผ่านโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง วันหนึ่งขณะที่เราเดินกลับมีตำรวจมาดักถามเราว่าไปไหนมา มีคนไปแจ้งกลัวว่าจะไปโจรกรรมของในโรงเรียน เราก็บอกว่าเราเป็นนักเรียนมาทำสวนกัน พร้อมทั้งโชว์บัตรประจำตัวนักเรียนให้ตำรวจดู เขาก็ไม่ติดใจอะไร พวกเรากำลังหอบผักบุ้งกลับบ้าน กะว่าจะไปแกงส้มสักหน่อย เขาถามว่านั่นผักอะไร เราตอบว่า morning glory เขามองเราอย่างสงสัยและถามว่ากินได้หรือ เราบอกว่าอร่อยมาก เขาบอกว่าให้ไปเอาที่บ้านเขามีเยอะแยะ พร้อมทั้งให้เบอร์โทร.ไว้ด้วย เราขอบคุณเขา และอีกอาทิตย์ต่อมาพวกเราก็ไปเยี่ยมบ้านเขา เขาพาเราไปดู เป็น morning glory เหมือนกัน แต่กินไม่ได้ครับ เขาถือว่าเป็นวัชพืช ใบมีขนด้วย เราเลยทราบว่าผักบุ้งมีหลายพันธ์ มิน่าเล่าตอนบอกทีแรกเขามองเราด้วยความสงสัยปนเวทนา คิดว่าเรากินวัชพืชได้
..........ก็คงได้ความรู้กันบ้างนะครับ ภาพประกอบเก็บตกจากเจียไต๋อีกรอบครับ ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขครับ แล้วคุยกันใหม่ สวัสดีครับ

ศัพท์ภาษาอังกฤษ ผลไม้ ชุด1

สาระน่ารู้จากพ่อครูPhongsak Raksaphet
สวัสดีวันเสาร์อันแสนจะเบิกบาน
.........ตื่นเช้าขึ้นมาสดชื่น อากาศไม่เย็นเท่าไร กำลังดี ขอบคุณเพื่อนๆที่กด like กันมากมายที่ผมเขียนเกี่ยวกับดอกไม้และผัก ทำให้ได้ความรู้มากมาย ความรู้มีอยู่รอบๆตัวเราหากว่าเราไฝ่รู้ วิธีการเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ดีอีกประการหนึ่งและเป็นวิธีที่ได้ผลคือการไฝ่รู้ (inquisitive) เห็นคำศัพท์อะไรที่เป็นประโยชน์ จดจำ บันทึกไว้ เราจะเพิ่มพูนศัพท์ภาษาอังกฤษได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อรู้ศัพท์มากก็ทำให้เกิดความมั่นใจในการพูด มีแฟนคลับโทร.มาว่าอาจารย์พูดเรื่องดอกไม้และผักแล้วอยากรู้เรื่องผลไม้เพราะไปด้วยกัน เรามักจะได้ยินว่าให้กินผักผลไม้เยอะๆนะ จัดให้ครับ
.........ฝรั่ง (guava) ลูกพลับ (persimmon) ส้มโอ (pomelo) เงาะ (rambutan) ลำไย (longan) ลิ้นจี่ (lichee) มะยม (star gooseberry) ส้มเขียวหวาน (tangerine) ขนุน (jackfruit) ละมุด (sapodilla) ทับทิม (pomegranate) กระท้อน (santol) น้อยหน่า (sugar apple) มะขาม (tamarind) มะปราง (marian plum) แตงแคนตาลูป (cantaloupe) มะเฟือง (star fruit) ชมพู่ (rose apple) พุทรา (jujube) อินทผลัม (date) สาลี่ (Chinese pear) มะเดื่อ (fig) เสาวรส (passion fruit) ลูกหม่อน (mulberry) ทุเรียน (durian) มังคุด (mamgosteen) มะม่วง (mango) ลางสาด (ransium) แก้วมังกร (dragon fruit) กล้วย (banana) ส้ม (orange)

........เคยบอกไปแล้วว่าผลไม้เหล่านี้เป้นผลไม้พื้นเมืองบ้านเรา ถึงแม้จะมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษแต่ฝรั่งส่วนมากก็ไม่รู้จัก หลายปีมาแล้วมีอาสาสมัครที่เคยสอนที่นี่และมาเยี่ยมพร้อมกับลูกชาย ช่วงนั้นเป็นหน้าเงาะ เขาก็ปอกเงาะกิน เจ้าลูกชายอายุประมาณ 4 ขวบ พอปลอกเสร็จกินเปลือกเงาะ แม่จึงบอกว่าไม่ใช่ให้กินเนื้อเงาะ ผมเคยอ่านเจอว่า rambutan เป็นภาษามาเลย์แปลว่า ผลไม้ที่มีขน หากผมเข้าใจผิดท่านผู้รู้ช่วยบอกผมหน่อยนะครับ ส่วน fig ที่แปลว่า มะเดื่อ นั้นที่ประเทศออสเตรเลียนิยมกิน เห็นวางขายตามร้าน ปิดท้ายด้วยคำถาม เราที่ว่า banana แปลว่า กล้วย แล้วกล้วยปิ้ง ภาษาอังกฤษใช้ว่าอย่างไร น่าจะเป็น grilled banana แต่บางร้าน แบนแน่แน่ ครับเพราะถูกหนีบ
......ก็คงได้รับความรู้กันบ้างนะครับ ปิดท้ายด้วยคลิปการออกเสียงชื่อผลไม้บางชนิดครับ ขอให้ท่านมีความสุขมากๆในวันหยุดนี้ สวัสดีครับ

***แก้ไข ลำใย แก้เป็น ลำไย ดูคำศัพท์เพิ่มเติมที่
YOUTUBE.COM

Sounds and Senses in English (เสียงและความหมายในภาษาอังกฤษ)

สาระน่ารู้จากพ่อครูPhongsak Raksaphet

Sounds and Senses in English (เสียงและความหมายในภาษาอังกฤษ)
...........การอบรมภาษาอังกฤษให้กับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดก็ได้สิ้นสุดไปแล้วเมื่อวานนี้ ก็ประทับใจหลายๆอย่าง ขอบคุณหัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรีและคณะที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ขอบคุณผู้เรียนที่ตั้งใจเรียนและให้เกียรติวิทยากร คงจะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอีกนะครับ
...........กลับเข้าสู่บริบทของวิชาการ เพื่อนๆเคยสังเกตไหมครับว่าเสียงสระและพยัญชนะบางเสียงที่เปล่งออกมามีความสัมพันธ์กับความหมาย ยกตัวอย่างในภาษาไทย คำว่า ปลิว พริ้ว ฉิว ลิ่ว มักมีความหมาบไปในบาง เบา คำว่า เก เข เฉ เหล่ มักมีความหมายในทาง ไม่ตรง ยกเว้น เด่ ในภาษาอังกฤษมีหลายคำที่มีลักษณะเช่นนี้
...........เพื่อนๆลองสังเกตว่าเสียงเหล่านี้มีความหมายเหมือนกันอย่างไร smash (I want to smash your face: อยากจะตะบันหน้าคุณ) crash (My car crashed this morning: รถพัง) gnash (He gnashed his teeth: เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน) mash ( He wanted to mash potatoes: อยากจะบดมันฝรั่ง) thrash (Prisoners are thrashed: นักโทษถูกเฆี่ยน) และยังมีอีกหลายๆคำ คำที่ลงท้ายด้วย -ash นั้นมักเกี่ยวข้องกับการกระทำที่รุ่นแรงและน่ากลัว หากลองออกเสียง a (อา) จะเหมือนเสียงการร้องของมนุษย์ คราวนี้ลองออกเสียง -sh จะเห็นว่าใช้เวลานานพอสมควร นักภาษาศาสตร์สรุปว่าเสียง -ash นั้นเหมาะสมกับความรู้สึกของการกระทำที่รุ่นแรงไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตาม
.........ลองมาดูคำว่า แม่ จะขึ้นต้นด้วย m ในหลายๆภาษา เช่น mother, mama, แบะ mom ในภาษาอังกฤษ mater ในภาษาละติน mere ในภาษาฝรั่งเศส madre ในภาษาสแปนิช mutter ในภาษาเยอรมัน mam ในภาษา Welsh mat ในภาษารัสเซียน และ masake ในภาษา Crow Indian ก็ยังไม่มีคำอธิบายที่แจ่มชัด อาจจะเป็นเหตุบังเอิญก็ได้ เพราะในการออกเสียง m นั้นคล้ายกับการดูดนมมารดา ของเด็กจึงออกเสียงได้ง่าย ในทางสัทศาสตร์ เสียง /m/ เป็นเสียง bilabial เกิดขึ้นที่ริมฝีปากทั้งสองข้าง มนุษย์ทุกคนมีริมฝีปากทั้สองข้างอยู่แล้วครับ

.......คำที่ขึ้นต้นด้วย sn- หลายคำเกี่ยวข้องกับจมูก เช่น sneeze (จาม) snore (กรน) sniff (ทำจมูกฟึดฟัด) sneer (เยาะเย้ย ทำจมูกเชิด) snail (หอยทาก) และ snuffle, snivel,snuff,,snoot, snicker ลองออกเสียงเหล่านี้ดูและลองสังเกตดูครับว่าเกิดอะไรขึ้นที่จมูกของเรา คงต้องต่ออีกสักตอนนะครับ ภาพประกอบเป็นความรู้ภาษาอังกฤษนำไปสอนนักเรียนได้ครับ ภาพสุดท้ายคนที่ชอบกินผัก คงกินไม่ลงนะครับ น่ารักจัง


ความไม่คงเส้นคงวาของภาษาอังกฤษ (Inconsistency of English)

สาระน่ารู้จากพ่อครูPhongsak Raksaphet
ความไม่คงเส้นคงวาของภาษาอังกฤษ (Inconsistency of English)
........เพื่อนๆ หลายคนคงเคยถูกถามมาว่าแมลงวันหัวเขียวนั้นหัวสีอะไร คนที่เคยเห็นก็คงตอบได้ว่าหัวสีแดง อาจแปลกใจว่าทำไมเรียกว่าแมลงวันหัวเขียว ในภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน มีหลายคำที่แปลตามตัวแล้วจะไม่ได้ความหมายที่แท้จริงทำให้ผู้อ่านสับสน คำเหล่านี้เป็นคำประสม ลงเสียงหนักที่พยางค์หน้า แต่หากลงเสียงหนักพยางค์หลังจะเป็นคำขยายและความหมายตรงตัว เช่น a hot dog หากลงเสียงหนักพยางค์หน้า หมายถึง hot dog ที่เราบริโภคกัน หากลงเสียงหนักพยางค์หลังหมายถึงหมาที่ร้อนครับ คำแนะนำคือสงสัยคำไหนควรเปิดดูพจนานุกรมจะได้เข้าใจถูกต้อง
........ คำว่า blackboard ที่เป้นคำประสมอาจจะสีน้ำเงินหรือสีเขียวก็ได้ครับ คำว่า sweetmeat ไม่ได้แปลว่าเนื้อหวานแต่เป็นพวกลูกอม หรือของหวาน ในขณะที่ sweetbread ไม่ได้แปลว่าขนมปังหวาน แต่เป็นอวัยวะภายในของสัตว์ที่ใช้เป็นอาหาร Koala bear ไม่ใช่ bear แต่เป็น marsupial (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) homework ทำที่โรงเรียนก็ได้ใช่ไหมครับ ส่วน nightmare (ฝันร้าย) เกิดตอนกลางวันก็ได้ morning sickness (อาการแพ้ท้อง) เกิดตอนกลางคืนก็ได้ daydream (ใจลอย) เกิดกลางคืนก็ได้ครับ tomboy จริงๆแล้วเป็นผู้หญิงครับ ในขณะที่ midwives (ผดุงครรภ์) อาจจะเป็นผู้ชายก็ได้ quicksand (ทรายดูด) จริงๆแล้วมันค่อยๆดูดไปทีละช้าๆ ไม่ได้ quick เหมือนกับชื่อของมัน คำว่า bathroom ส่วนมากจะไม่มีห้องอาบน้ำ เวลาสุนัขฉี่ใต้ต้นไม้ ใช้ว่า A dog goes to the bathroom under a tree. ไม่มีทั้ง bath ไม่มีทั้ง room แต่มันก็ไป bathroom ครับ 

........คำว่า firefighter หมายถึงพนักงานดับเพลิง ต่อสู้กับไฟ แต่ freedom fighter ไม่ได้สู้กับ freedom ครับ แต่ต่อสู้เพื่อให้ได้ freedom นักยกน้ำหนักคือ weightlifter เพราะต้อง lift weight แต่ shoplifter แปลว่า คนขโมยของตามร้านนะครับ ไม่ได แปลว่าคนยกร้าน เวลาเราเป็นหวัดน้ำมูกไหล ใช้คำว่า My nose runs และเวลาที่เท้าใครเหม็นใช้ว่า Your feet smell อันที่จริงน่าจะกลับกันใช่ไมครับ น่าจะเป้น My nose smells และ Your feet run คำว่า a wise man และ a wise guy นั้นความหมายตรงกันข้ามกันครับ ทั้งๆที่ man และ guy นั้นความหมายเหมือนกัน a wise man หมายถึงคนฉลาด สุขุม ลุ่มลึก มักทำอะไรถูกต้องตามกาละเทศะ ส่วน a wise guy ทำอะไรเปิ่นๆ ผิดอยู่เรือย ตามที่พวกเราเคยทราบ คำว่า a few กับ a lot นั้นความหมายตรงข้ามกัน แต่พอเติม quite เข้าไปข้างหน้าเป็น quite a few กับ quite a lot แปลว่าจำนวนมากเหมือนกัน ตลกไหมครับ
......ยิ่งเขียนยิ่งสนุก ขอต่ออีกสักตอนนะครับ อย่าลืมติดตาม สวัสดีครับ


ความไม่คงเส้นคงวาของภาษาอังกฤษ (Inconsistency of English) (2)

สาระน่ารู้จากพ่อครูPhongsak Raksaphet

ความไม่คงเส้นคงวาของภาษาอังกฤษ (Inconsistency of English) (2)
............สวัสดีเช้าวันพุธครับ ตื่นเช้าขึ้นมาอากาศเย็นเหมือนกัน เมื่อวานนี้เขียนบทความวิชาการ แฟนคลับมากมายชอบและให้กำลังใจ อันจะเป็นกำลังใจให้แบ่งปันความรู้ให้ต่อไป ก็ขอขอบคุณนะครับ
............ เราเคยทราบมาว่าในภาษาอังกฤษ un- ซึ่งเป็น prefix นั้น หากเติมเข้าไปข้างหน้าคำไหน ความหมายจะตรงกันข้าม เช่น button และ unbutton, fair และ unfair, tie และ untie แต่ก็แปลกที่ loosen และ unloosen นั้นความหมายเหมือนกันคือ ทำให้หลวม ส่วน suffix -less หากเติมหลังคำไหนจะแปลว่า ไม่มี harmless (ไม่มีอันตราย) จะตรงข้ามกับ harmful (เต็มไปด้วยอันตราย) แต่ก็ไม่แน่เสมอไป shameless behavior (พฤติกรรมที่ไร้ยางอาย) และ shameful behavior (พฤติกรรมที่น่าอับอาย) นั้นความหมายเหมือนกัน คำว่า pricey แปลว่า มีราคา priceless แปลว่ามีราคามากแบบหาค่าไม่ได้เลย ไม่ได้แปลว่าไม่มีราคา นะครับ เราทราบว่า prefix in- เติมหน้าคำไหนแปลว่า ไม่ เช่น expensive และ inexpensive, edible และ inedible, consistent และ inconsistent แต่ก็ไม่แน่เสมอไป valuable และ invaluable นั้นความหมายเหมือนกันครับ แปลว่ามีคุณค่าราคามาก คำว่า flammable และ inflammable นั้นความหมายเหมือนกัน แปลว่าติดไฟได้ง่าย คำตรงข้ามกับ flammable คือ de-flammable เช่น flammable garbage และ de-flammable garbage ขยะติดไฟง่ายและขยะไม่ติดไฟ 
.........ภาษาอังกฤษมีกลุ่มคำประเภทหนึ่งเรียกว่า Contronym คำว่า contro- เป็น prefix หมายถึง contra- หรือตรงข้าม ส่วน -nym เป็น suffix หมายถึง ชื่อ (name) หมายถึง คำๆเดียวกันแต่ความหมายตรงกันข้ามกัน เช่น The moon is out และ The lights are out. ประโยคแรกพระจันทร์ส่องสว่าง เราสามารถมองเห็นได้ ประโยคที่สอง ไฟดับ เรามองไม่เห็น ทั้งๆที่ใช้คำว่า out เหมือนกัน อีกตัวอย่างคือ I wind up my watch คือไขลานนาฬิกาเพื่อให้มันเริ่มต้นทำงาน แต่ I wind up my speech. แปลว่าสรุปการกล่าวสุนทรพจน์ คำว่า to wind up จึงมีความหมายทั้งเริ่มต้นและจบ ในภาษาอังกฤษจะมีกลุ่มคำพวกนี้อยู่หลายคำ จะมาแชร์กับเพื่อนๆในโอกาสหน้าครับ
.......ภาษาอังกฤษหากเราเติม -s เป็นพหูพจน์แปลว่ามาก แต่ก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ a man with hairs on his head นั้น มีผมน้อยกว่า a man with hair on his head คำว่า hairs แปลว่า ผมหรือ ขน ที่นับเส้นได้ แปลกดีนะครับ ถ้าหากว่าเราตัดสินใจเป็นคนเลวตลอดไป เราอาจพูดเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า I have decided to be bad forever. หรือ I have decided to be bad for good. เพราะคำว่า for good นั้นเป็นสำนวนแปลว่า forever หากไม่ทราบความหมายของสำนวนนี้จะฟังดูแปลกๆ ชอบกลอยู่นะครับ
........ยังมีหลายคำที่เราฟังแล้วเข้าใจทันที แต่หากว่าหยุดคิดและวิเคราะห์จะเห็นว่าแปลก เช่น non-stop flight เข้าใจกันโดยทั่วไปคือ เครื่องบินบินตรง ไม่หยุด แต่หากวิเคราะห์กันตามรูปศัพท์คือ เที่ยวบินนี้ไม่หยุดเลย บินอยู่บนท้องฟ้าจนน้ำมันหมดและตกลงมาเอง คำว่า underwater และ underground แปลว่า ใต้น้ำและใต้ดิน มาหยุดคิดอีกทีแท้จริงแล้วล้อมรอบไปด้วยน้ำและดินใช่หรือไม่ อีกสำนวนคือ May the best team win เป็นสำนวนที่ใช้ในการแข่งขันระหว่างสองทีม แต่เราเคยเรียนมาแล้วว่า คำว่า best น่าจะใช้เปรียบเทียบกับของ 3 สิ่งขึ้นไปใชไหมครับ

........ก็คงจะเข้าใจและได้ความรู้กันเกี่ยวกับความไม่คงเส้นคงวาของภาษาอังกฤษใช่ไหมครับ หากเรามีปัญหาไม่เข้าใจ ควรเปิดดูในพจนานุกรมครับ